หลักการเลือกทีวี

4 หลักการเลือกทีวีที่เหมาะกับห้อง

หากจะกล่าวถึงเรื่องของไลฟ์สไตล์และการตกแต่งห้องพักของคุณแบบโดดเด่น สวยงามหรือเท่ๆ ตามแบบของคุณด้วยเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งต่างๆ แล้วนั้น…ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องเลือกมันเหมาะ แมตช์และใช้งานได้ดีกับห้องของคุณจะดีที่สุดครับ และหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเลือกกันดีๆ เพราะถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญมากๆ สำหรับสื่อความบันเทิงแห่งยุค ซึ่งนั้นก็คือ “ทีวี” ยังไงหล่ะครับ วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์เกี่ยวกับ “4 หลักการเลือกทีวีที่เหมาะกับห้อง” ของพวกคุณกันครับ

เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ ทีวี

ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดจอทีวีแสดงผลต่างๆ มากมายที่มคุณสมบัติต่างกัน ซึ่งสามารถแนะนำคร่าวๆ เกี่ยวกับจอแสดงผลได้ดังนี้

LED TV

LED TV (Light Emitting Diode) หลายคนคงเคยได้ยินชื่อทีวี LED บ่อยครั้ง เพราะถือเป็นทีวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เทคโนโลยีทีวี LED ต่อยอดมาจากทีวี LCD โดยเปลี่ยนจากหลอดไฟ CCFL มาใช้หลอดไฟ LED 3 สี (แดง/น้ำเงิน/เขียว) เป็นตัวกำเนิดแสง ซึ่งให้แสงสว่างได้มากกว่า แต่กินไฟน้อยกว่า ทั้งยังมีขนาดเล็ก ทำให้ทีวี LED บางกว่าทีวี LCD มาก

OLED TV

OLED TV (Organic Light Emitting Diode) เทคโนโลยีจอทีวีสมัยใหม่ ไม่พึ่งหลอดไฟแต่จะใช้เม็ดพิกเซลเป็นแหล่งกำเนิดแสงคล้ายกับทีวีพลาสม่า ทำให้จอทีวีมีความบางลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม สามารถยืดหยุ่นทำให้โค้งได้ (ที่เรียกกันว่าทีวีจอโค้ง) ภาพที่ได้จากทีวี OLED มีสีสันสมจริง และสวยงามสม่ำเสมอไม่ว่าจะนั่งดูทีวีจากมุมไหนของห้องก็ตาม

QLED TV

QLED TV (Quantum-Dot Light-Emitting Diode) ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot สุดล้ำ ทำงานร่วมกับสารเรืองแสงอนุภาคเล็ก สำหรับเป็นแหล่งกำเนิดแสงสร้างเม็ดพิกเซลเพื่อแสดงผลออกมาเป็นภาพ ซึ่งให้เฉดสีที่แม่นยำ 100% ภาพที่ออกมามีสีสันสมจริง เป็นธรรมชาติ และแสดงภาพคมชัดได้ไม่ว่าทีวีจะอยู่ในห้องมืดหรือห้องสว่างมากก็ตาม ถือเป็นเทคโนโลยีจอทีวีที่ทันสมัยที่สุดในเวลานี้

4 หลักการเลือกทีวี

  • เลือกจากขนาดจอ TV ขนาดของจอทีวีเป็นสิ่งที่สำคัญที่คุณต้องพิจารณาในการซื้อทีวีเครื่องใหม่ โดยที่คุณจะต้องเช็คให้ดีก่อนว่าในขณะที่คุณนั่งดูทีวีมีระยะความห่างมากน้อยแค่ไหน แนะนำควรนั่งห่างจากทีวีเป็นระยะมากกว่าสามเท่าของความสูงของจอทีวี เช่น ทีวี 32 นิ้ว มีความสูงประมาณ 40 ซม. ควรมีระยะห่างทีวีประมาณ 120 ซม. ส่วนใหญ่ทีวีขนาดยอดนิยมในปัจจุบันได้แก่ ขนาด 32 43 และ 55 นิ้ว
  • เลือกจากความละเอียดทีวี ความละเอียดของจอทีวีมีส่วนสำคัญอย่างมาก เมื่อจำนวนของพิกเซลบนหน้าจอที่ใช้แสดงสีสันให้เราได้เห็น ยิ่งจอภาพมีพิกเซลมากกว่า ความละเอียดและความคมชัดจะสูงกว่า อย่างเช่น Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล เป็นความละเอียดมาตรฐานของทีวีส่วนใหญ่ทั่วโลก ต่อมาเทคโนโลยีที่มีความละเอียดสูงกว่านั้นที่เรียกว่า Ultra HD หรือ 4K มีความหนาแน่นของพิกเซลมากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ด้วยความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ปัจจุบันความละเอียด 8K เพิ่มเข้ามาในทีวีรุ่นใหม่ ๆ บางรุ่น โดยมีความละเอียดมากกว่า 4K ถึง 4 เท่า ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน
  • เทคโนโลยี HDR  หากคุณต้องการสีสันหน้าจอที่มากกว่าทีวี 4K ทั่วไป แนะนำเลือกรุ่นที่รองรับฟีเจอร์ HDR (high dynamic range) มาพร้อมชื่ออย่าง HDR10 หรือ 4K Premium และ Dolby Vision เนื่องจากทีวีเหล่านี้จะแสดงเฉดสีได้ในช่วงที่กว้างกว่าทีวี 4K ทั่วไป รวมถึงส่วนที่สว่างและมืดของภาพ
  • เลือกจากค่า Refresh Rate  ซึ่ง ค่า Refresh Rate จะหมายถึง ค่าที่บ่งบอกอัตราความถี่ในการแสดงผลบนหน้าจอ โดยมีการระบุไว้เป็นหน่วย Hertz (Hz) จอที่มีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 60 Hz แปลว่าภาพบนหน้าจอนั้นจะถูกปรับเปลี่ยน 60 ครั้งต่อ 1 วินาที สามารถแสดงผลสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที (fps) นั่นหมายความว่ายิ่งภาพถูกปรับเปลี่ยนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวของภาพที่ได้นุ่มนวลและเรียบเนียนมากขึ้น แนะนำให้คุณลงทุนซื้อรุ่นที่มี Refresh Rate มากกว่า 120 Hz ขึ้นไป

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “4 หลักการเลือกทีวีที่เหมาะกับห้อง” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันนะครับ คิดว่าจะช่วยให้มีความรู้ติดตัวกันมากขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ